คนเมืองเสี่ยงขาด วิตามินดี

คนเมืองเสี่ยงขาด วิตามินดี

ศ.นพ.บุญส่ง องค์พิพัฒนกุล ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยถึงภาวะพร่องวิตามินดีในคนไทย ว่า วิตามินดีมีความสำคัญในการดูดซึมแคลเซียมจากทางเดินอาหาร การขาดวิตามินดีทำให้แคลเซียมดูดซึมได้น้อยลง

ทั้งนี้ วิตามินดีส่วนใหญ่ร่างกายได้มาจากการสร้างจากผิวหนังหลังจากได้รับรังสีอัลตราไวโอเลต (ยูวีดี) ในแสงแดด อย่างไรก็ตามจากการสำรวจในประชากรประมาณ 2,500 คนทั่วประเทศ พบว่า ประชากรที่ขาดวิตามินดีส่วนใหญ่อยู่ในเขตเมืองมากกว่าชนบท โดยคนกรุงเทพฯ ขาดวิตามินดี 14% ทั้งนี้ในโรงพยาบาลบางแห่งพบการขาดวิตามินดีถึง 50% เนื่องจากชีวิตการทำงานในแต่ละวันไม่เจอกับแสงแดดเลย โดยมากพบในผู้หญิง ส่วนในต่างจังหวัดตัวเลขการขาดวิตามินดีประมาณ 5-7%

ศ.นพ.บุญส่ง กล่าวต่อว่า ปัญหาจากการขาดวิตามินดีที่ชัดเจน คือ โรคกระดูกพรุน ที่เสี่ยงต่อภาวะกระดูกหักง่ายขึ้น โดยเฉพาะผู้สูงอายุในเขตเมือง นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์กับโรคที่พบบ่อยขึ้น เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมว่าท้ายที่สุดวิตามินดีนอกจากจะมีความสัมพันธ์กับโรคกระดูกแล้วสัมพันธ์กับโรคอะไรบ้าง

"คนเราควรจะถูกแดดในช่วง 10.00-14.00 น. ประมาณ 10-15 นาที สัปดาห์ละ 2 - 3 ครั้ง โดยคนที่ทำงานอยู่ในสังคมเมือง วันเสาร์-อาทิตย์ควรหาเวลาในการรับแสงแดด ประเด็นสำคัญคือต้องไม่ทาครีมกันแดด ทั้งนี้การถูกแสงแดดเพื่อให้ร่างกายสร้างวิตามินดีที่เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องนานเราใช้เวลาสั้นๆ เท่านั้น"

ศ.นพ.บุญส่ง กล่าวต่อว่า ขณะนี้กำลังมีโครงการร่วมกับแพทย์ผิวหนัง รพ.รามาธิบดี ที่จะทำวิจัยถึงปริมาณแสงยูวีที่ร่างกายได้รับ ด้วยการฉายแสงยูวี ให้กับกลุ่มตัวอย่างประมาณ 100 คน จากนั้นทำการเจาะเลือดหาตรวจหาค่าวิตามินดีในร่างกาย ทั้งนี้เพื่อหาเวลาที่เหมาะสมในการรับแสงยูวีว่าควรจะใช้เวลาเท่าใด นอกจากนี้จะทำการวิจัยถึงการได้รับวิตามินดีจากการรับประทานพืช เพราะมีบางพื้นที่ตรวจเลือดพบว่าประชากรมีวิตามินดี 2 ในร่างกายสูงมาก ซึ่งวิตามินดี 2 ได้มาจากพืช ซึ่งในประเทศไทยยังไม่มีการวิจัยว่าเป็นพืชชนิดใด แต่ในต่างประเทศพบวิตามินดี 2 มากในเห็ด

 คนเมืองเสียงขาดวิตามิน ดี

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ

Posted in: โรคกระดูกพรุน,วิตามิีนดี